อัปเดต! เทรนด์ “อุตสาหกรรมสิ่งแวดล้อม” ในปี 2024

สิ่งแวดล้อม, เครื่องแยกตะกอน, ของแข็ง, ของเหลว

หากจะพูดถึงเทรนด์ที่มาแรงที่สุดในปี 2024 ก็คงจะหนีไม่พ้น “เทรนด์รัก(ษ์)โลก” ที่ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจในแวดวงไหนก็ต้องหันมาให้ความสนใจ และยังมีอีกหลาย ๆ ธุรกิจที่หันมาทำธุรกิจภายใต้ “แนวคิด ESG (Environmental, Social and Governance)” หรือ “แนวคิดการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน” และหากจะพูดถึงวงการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเทรนด์นี้โดยตรง ก็คงจะต้องเป็นการพูดถึง “อุตสาหกรรมสิ่งแวดล้อม” อย่างแน่นอน

Eco Industy

ในวันนี้ เราจึงจะพาทุกคนมาอัปเดต “เทรนด์อุตสาหกรรมสิ่งแวดล้อม” ที่กำลังมาแรงและน่าจับตามองในปี 2024 กัน ว่าในปีนี้ จะมีเทรนด์อะไรในวงการอุตสาหกรรมสิ่งแวดล้อมที่มาแรงแซงทางโค้ง ซึ่งมีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมและนำมาพัฒนาต่อได้มากขึ้นในอนาคต ถ้าพร้อมแล้ว เราไปดูพร้อม ๆ กันเลย !

Climate Fintech

เทรนด์แรกที่เราจะพาทุกคนไปรู้จักพร้อมกันในวันนี้ก็คือเทรนด์ “Climate Fintech” หรือ “นวัตกรรมการเงินเพื่อความยั่งยืน” นวัตกรรมที่เป็นการผสานกันระหว่างคำว่า “Finance” และ “Technology” ซึ่งเป็นการใช้เทคโนโลยีระบบการสื่อสารออนไลน์มาประยุกต์ใช้ในธุรกิจทางด้านการเงิน การธนาคาร และการลงทุน ผ่านทางแพลตฟอร์มสำหรับการซื้อขาย

Eco Industy

โดยนวัตกรรมนี้จะเป็นการเข้ามาเพื่อช่วยลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากกิจกรรมของมนุษย์ผ่านการทำกิจกรรมทางการเงิน เช่น การถอนเงินจากตู้ ATM และได้ใบเสร็จที่เป็นกระดาษมา ให้เปลี่ยนมาใช้เป็น Digital Banking หรือ Digital Point-of-Sale ที่ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถทำธุรกรรมต่าง ๆ ได้โดยใช้ทรัพยากรที่น้อยลง และส่งผลให้นำไปสู่การลดการใช้ Carbon Footprint ได้ และในปัจจุบัน ในประเทศไทยมีมากกว่า 500 บริษัท/องค์กรที่ได้ใช้แพลตฟอร์มนี้ในการซื้อขาย ทำให้การซื้อขายสามารถดำเนินไปได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว แถมยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นอีกด้วย

ESG Disclosure

หลังจากที่หลายๆ บริษัทและองค์กรได้มีการหันมาให้ความสนใจกับแนวคิด ESG เพิ่มมากขึ้น การมีการเปิดเผยข้อมูลทางด้านความยั่งยืน หรือ Sustainability Information จึงเป็นเทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก เนื่องจากการเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้จะเป็นการแสดงให้เห็นถึงนโยบาย ผลกระทบ และผลการดำเนินงานทางด้านสิ่งแวดล้อม ช่วยให้ผู้ลงทุนและผู้ใช้ข้อมูลได้เห็นถึงมุมมองการดำเนินธุรกิจของบริษัทหรือองค์กรนั้น ๆ ได้ในมิติที่กว้างกว่าแค่ข้อมูลทางด้านการเงิน ส่งผลให้เกิดความเชื่อมั่นต่อองค์กรจากผู้บริโภค

Eco Industy

“ESG Disclosure” จึงเป็นวิธีการเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้ผ่านทางรายงานประจำปี รายงานความยั่งยืน หรือผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัทหรือองค์กร ทำให้การเปิดเผยข้อมูลทางด้านความยั่งยืนหรือข้อมูล ESG จึงควรมีความเชื่อมโยงกับกลยุทธ์และทิศทางการบริหารธุรกิจของบริษัทหรือองค์กร เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้ข้อมูลหรือผู้ที่มีความต้องการจะลงทุนมีข้อมูลในการใช้พิจารณาและตัดสินใจการมีส่วนร่วมกับธุรกิจ โดยข้อมูลเหล่านี้ที่ถูกเปิดเผยออกมาจะต้องมีความสำคัญ ทันการณ์ เชื่อถือและเปรียบเทียบได้

AI (Artificial Intelligence)

อีกหนึ่งเทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในแทบทุกแวดวงอุตสาหกรรมก็คือเทรนด์การนำ “นวัตกรรม AI (Artificial Intelligence)” มาปรับใช้ให้เข้ากับบริษัทหรือองค์กร ไม่เว้นแม้แต่ในอุตสาหกรรมสิ่งแวดล้อม และมีแนวโน้มว่าในอนาคต นวัตกรรม AI จะยิ่งเข้ามามีบทบาทมากขึ้น เพื่อเป็นการช่วยแก้ปัญหาและสร้างความยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น

Eco Industy

ตัวอย่างการใช้นวัตกรรม AI ให้เข้ามามีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมสิ่งแวดล้อมก็คือ การนำนวัตกรรม AI มาใช้วัดข้อมูลสภาพอากาศ ประเมินการผลิตกระแสไฟฟ้ารายปี รวมถึงการคำนวณผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสภาพอากาศได้ เป็นต้น นอกจากนี้ นวัตกรรม AI ในการสนับสนุนการใช้ดินอย่างยั่งยืน สนับสนุนการใช้พลังงานทดแทนและพลังงานสะอาดได้อีกด้วย เป็นต้นว่า ใช้นวัตกรรม AI ผสานเข้ากับภาพถ่ายดาวเทียม หรือการตรวจหาโรคพืชและปัญหาอื่น ๆ และการพยากรณ์อากาศด้วยนวัตกรรม AI ที่ทำให้ได้ผลลัพธ์การพยากรณ์ที่แม่นยำขึ้นช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และลดการสร้างมลพิษคาร์บอนที่ไม่จำเป็นได้

รถ EV

ในปัจจุบัน ณ เวลานี้ คงเรียกได้ว่าไม่มีใครไม่รู้จักนวัตกรรม “รถ EV” หรือที่เรียกกันจนติดปากว่า “รถไฟฟ้า” กันแล้ว และในตอนนี้ หากผู้คนต้องการจะซื้อรถสักคัน รถ EV ก็คงจะเป็นตัวเลือกอันดับแรก ๆ ที่ผู้คนให้ความสนใจและอยากซื้อมาใช้แทนรถที่ใช้น้ำมัน เนื่องด้วยปัญหาทางด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมที่สถานการณ์ยังคงร้อนระอุไม่แพ้อากาศอยู่ในขณะนี้

สถานีชาร์จ

อ้างอิงจากข้อมูลของทาง Emissions Database for Global Atmospheric Research (EDGAR) ที่ได้มีการเปิดเผยว่า ในปี 2022 ภาคการขนส่งได้มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงขึ้นถึงร้อยละ 72% เมื่อเทียบกับหลายปีก่อนหน้า ทำให้การหันมาใช้รถ EV จึงเป็นตัวเลือกที่ผู้คนควรเลือก เพื่อเป็นการช่วยลดมลพิษทางด้านสิ่งแวดล้อมได้มากขึ้น และไม่ใช่แค่รถ EV จะเป็นที่นิยมในต่างประเทศ ในประเทศไทยเองก็มียอดผู้ใช้รถ EV เป็นจำนวนไม่น้อยด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ เราก็ยังมีการตั้งเป้าว่าภายในปี 2030 จะต้องมียอดการใช้รถ EV เพิ่มขึ้นมากกว่า 50% เพื่อให้ภายในปี 2040 รถ EV สามารถเข้ามาแทนที่ยานยนต์ที่ใช้น้ำมันได้ครบ 100%

Biodiversity

Biodiversity หรือ ความหลากหลายทางด้านชีวภาพ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยทำให้โลกใบนี้ของเรามีความสมดุล เพราะทุกชีวิตบนโลกต่างมีหน้าที่ดูแลสมมาตรและสมดุลของวัฏจักรชีวภาพไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แต่ในช่วงระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา ความหลากหลายทางชีวภาพกลับหายไปจากโลกกว่า 70%

Eco Industy

ด้วยเหตุนี้ อีกหนึ่งเทรนด์ที่น่าจับตามองในปี 2024 จึงเป็นเทรนด์การเพิ่มจำนวนสายพันธุ์ความหลากหลายทางด้านชีวภาพ หรือ Biodiversity Net Gain เพื่อให้สังคมโลกได้มีมาตรการตามแนวทางปฏิบัติที่จะคอยตรวจสอบแนวโน้มการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของความหลากหลายทางด้านชีวภาพ โดยในหลายประเทศทั่วโลกก็ได้เริ่มปฏิบัติเทรนด์นี้ให้เกิดขึ้นจริงแล้ว เช่น ประเทศอังกฤษได้ออกกฎหมายที่กำลังจะมีผลบังคับใช้ในเร็ววันนี้ เพื่อให้การพัฒนาเมืองหรือพื้นที่อื่น ๆ ต้องมีการออกแบบให้เพิ่มความหลากหลายทางด้านชีวิตภาพเพิ่มขึ้น 10% เป็นต้น

และนอกจากเทรนด์เหล่านี้ อีกหนึ่งเรื่องที่อุตสาหกรรมสิ่งแวดล้อมควรให้ความสำคัญและการใส่ใจเป็นพิเศษนั่นก็คือ การก่อให้เกิดมลพิษทางน้ำ เนื่องจากน้ำเป็นหนึ่งในสิ่งอุปโภคบริโภคที่ใช้ในกันมากในอุตสาหกรรมสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในโรงงาน บริษัท หรือองค์กร ที่มีการทิ้งตะกอนและสิ่งสกปรกลงในน้ำ เพราะสิ่งเหล่านี้จะส่งผลต่อวงจรชีวิตของสัตว์น้ำ กลายเป็นแหล่งแพร่ระบาดของเชื้อโรค มีผลกระทบต่อการเพาะปลูกพืชพันธุ์ และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศ การเลือกใช้ เครื่องแยกตะกอน (Slit Saver) จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่อุตสาหกรรมสิ่งแวดล้อมควรหันมาใส่ใจมากขึ้น

บำบัดน้ำเสีย

โดยเครื่องแยกตะกอนจะช่วยแยกเศษขยะที่ปะปนมากับน้ำเสียออก เมื่อน้ำเสียไหลผ่านตะแกรง เศษขยะหรือสิ่งปฏิกูลที่มีขนาดใหญ่กว่าช่องของตะแกรง ก็จะถูกดักเอาไว้ที่ด้านหน้าของตะแกรง เพื่อไม่ให้ขยะไหลเข้าไปในระบบบำบัดน้ำเสีย ซึ่งเป็นกระบวนการในลำดับถัดไป นอกจากนี้ ก็ควรเลือกใช้เป็นเครื่องแยกตะกอนที่ผลิตจากบริษัทที่ได้คุณภาพ ไว้ใจได้ ยกตัวอย่างเช่น เครื่องแยกตะกอนจาก C.C.Autopart ที่มีวัสดุจากประเทศไทยมากถึง 90% ในการผลิต เรียกได้ว่าส่วนนี้เป็นจุดเด่น และมีข้อดีคือ ช่วยให้ไม่เกิดการอุดตัน บำบัดน้ำเสียได้อย่างต่อเนื่อง และใช้ไฟฟ้าในปริมาณน้อย เป็นต้น เพียงเท่านี้ เราก็สามารถช่วยรัก(ษ์)โลกเพิ่มขึ้นได้แล้ว

บทความอื่นๆที่น่าสนใจ

“ชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้า” นวัตกรรมที่มาพร้อมเทรนด์ที่มาแรงที่สุดในขณะนี้ !

อุปกรณ์ทางการแพทย์

เผยเคล็ดลับ ! ทำไม “อุปกรณ์ทางการแพทย์ของไทย” ถึงไม่แพ้ชาติอื่น

4 แนวทางการบริหารจัดการน้ำ ต่อภาคอุตสาหกรรมการเกษตรของไทย